อีกไม่กี่ปีก็สี่สิบ

ตามเกณฑ์เฉลี่ยอายุขัย ก็ถือว่าผมอยู่เกินครึ่งชีวิตมาแล้ว ทำงานมาเกือบ 20 ปี และหากว่ากันด้วยค่านิยมพื้นฐาน ก็คงทำงานไปอีก 20 ปี … ช่วงหนึ่งในชีวิตเคยคิดว่า อายุ ประสบการณ์ ยิ่งมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรามองเห็นโอกาสและได้รับโอกาสมากขึ้นเท่านั้น ทางเลือกในชีวิตก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็เป็นดั่งคิด ชีวิตที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นจริง … แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมเองกลับตระหนักได้ข้อหนึ่งว่า

“ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ ก็ควรมีทางเลือกชีวิตให้น้อยที่สุด”

… กล่าวคือ เมื่อเราผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานระยะหนึ่ง สิ่งที่ควรมี คือ การตกผลึกในชีวิต มันคือช่วงเวลาที่เราควรค้นพบความหมายในชีวิต ค้นพบตัวเอง ความต้องการ เป้าหมายบางสิ่งบางอย่างได้แล้ว สิ่งเหล่านี้เรียกว่า #แก่นชีวิต … ผมชอบเรียกมันอีกชื่อหนึ่งว่า #ศูนย์กลางชีวิต นั่นเพราะ ทุกความคิดและการกระทำของเรา จะโคจรรอบมันเสมอ …

การที่เรามองเห็นหรือเริ่มมองเห็นความชัดเจนของศูนย์กลางชีวิตนี้ ทำให้เส้นทางชีวิตที่อยู่เบื้องหน้านั้น มีเหลือเพียงไม่กี่เส้นทาง แต่ทุกเส้นทางล้วนชัดเจน สำคัญและมีความหมายกับชีวิตนี้ทั้งสิ้น การที่เรามีตัวเลือกในชีวิตมากเกินไปจนเลือกไม่ถูก ไม่ใช่ข้อดี เพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าเรายังไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่า สิ่งใดสำคัญกับชีวิตและสิ่งใดไม่ใช่ ในทางกลับกัน หากเรามองเห็นศูนย์กลางชีวิตชัดเจนแล้ว จะสามารถละทิ้งทางเลือกที่ไม่สำคัญได้อย่างง่ายดาย ให้จำไว้ว่า หากทุกสิ่งสำคัญ แสดงว่าไม่มีสิ่งใดสำคัญเลย …

หากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเข้าใจ จะเข้าใจอีกข้อหนึ่งว่า #ไม่ควรมีทางเลือกมาก กับ #ไม่ค่อยมีทางเลือกมาก นั้น มีความหมายต่างกัน …

--

--

No responses yet