Guangming C. Sangkeettrakarn
1 min readDec 30, 2018

Hackathon Camp, Hack One’s Life — From Dust to Diamond. (1)

วันหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ผมได้รับการบอกเล่ากึ่งเชื้อเชิญจากเพื่อนสองคน(ภาค,โอ๋) ว่าปีนี้ทางมูลนิธิฯ จะจัดค่าย THNG Camp ครั้งที่ 8 โดยครั้งนี้ต่างจาก 7 ครั้งที่ผ่านมา คือ ถูกกำหนดให้มีส่วนหนึ่งเป็น Hackathon จึงชวนให้ไปช่วยดูให้หน่อย (คงในฐานะที่ผมดูแลค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชนมาตลอดมั้ง) ผมตอบตกลงในทันที ทั้งที่ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับค่ายนี้เลย ซึ่งปกติผมจะต้องขอเวลาคิดสักพัก ว่าการจัดค่ายแต่ละครั้ง ทุกฝ่าย ทั้งผู้จัดและผู้เข้าร่วมจะได้อะไร ผมจะเป็นกุญแจหลักในส่วนใดได้บ้างและสิ่งเหล่านี้จะตอบ Higher Purpose ของผมอย่างไร … แต่ครั้งนี้ Higher Self ของผม เป็นฝ่ายตอบรับออกไปก่อนที่ผมจะได้ใช้เวลาใคร่ครวญ … ผมตอบรับคำเชิญ ขณะที่ในหัวทำงานอย่างหนักว่า ต้องทำอะไรบ้างนะ … แต่ higher self หันกลับมาตบบ่าแล้วบอกว่า ออกไปลองซะเดี๋ยวก็รู้เอง …

โอ๋และภาคใช้เวลาในการประชุมแรก เพื่อทำให้ผมเข้าใจที่ไปที่มาและจุดประสงค์ของค่าย ซึ่งค่อนข้างต่างจากค่ายที่ผมเคยทำมาหลายจุด และมีจุดข้อจำกัดหลายจุดที่ทำให้การออกแบบค่ายโดยรวมทำได้ลำบาก เช่น น้องที่มาแบบกระจัดกระจาย แต่รวมกันกลุ่มใหญ่ 15 คน และเนื้อหาภาคบังคับที่ต้องใส่ลงไปแทบหมดทั้งวัน และ D-Day คือวันสุดท้ายแค่วันเดียว 24 ชั่วโมง ผมมองเห็นจุดที่ไม่เชื่อมโยงกันเต็มไปหมด เมื่อหลับตาลงและคิดทบทวน นี่คือคำตอบว่าทำไม ผมต้องมาอยู่ที่นี่

ในการทำค่ายขนาดใหญ่นั้น เรามีข้อสังเกตในหมู่คนทำค่ายด้วยกันข้อหนึ่งและมักจะเป็นจริงเสมอ คือ ทุกคนจะเริ่มเปิดใจให้กันและกัน เมื่อผ่านวันที่สามไปแล้ว นั่นหมายความว่า น้องค่ายจะเริ่มเข้าใจและค้นพบอะไรบางอย่าง ก็ตอนที่กำลังจะกลับบ้าน(ค่าย 4 วัน รวมเดินทาง) และอาจจะไม่ทันการ เราต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างมากในวันที่ 3 เพราะมันคือ hackathon และสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในกิจกรรมเช่นนี้คือ องค์ความรู้และทีมงานที่แน่นเหนียว มองเห็นเป้าหมายเดียวกัน โดยทั่วไป hackathon จะเป็นการรวมทีมที่รู้จักกันดี มาทำโจทย์เฉพาะที่สอดคล้องกับเวลา เช่น 36 48 ชั่วโมง และมีสมมติฐานว่าทุกคนมีความรู้พื้นฐานมาดีพอแล้ว แต่ค่ายนี้ตรงข้ามแทบทั้งหมด

  • ความรู้ที่ต้องใช้ทำภารกิจ เป็นสิ่งที่เรียนรู้ใหม่แทบทั้งหมด และต้องต่อยอดประยุกต์เป็น
  • ทุกคนในทีมเพิ่งรู้จักกัน และมีถึง 15 คน ถือว่าใหญ่มากสำหรับการบริหารจัดการภายใน ความสามัคคีคือกุญแจ
  • มีเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจถูก interrupt ด้วยกิจกรรมอื่นของค่าย

ผมให้แนวทางกิจกรรมกับผู้จัดการค่ายทั้งสองคน แม้จะเป็นกรอบร่างกิจกรรมและหัวข้อคร่าวๆ ที่ทำ แต่มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์การจัดค่ายของทั้งสอง จะสามารถบริหารจัดการได้ แต่สิ่งที่ผมต้องกลับมาคิดต่อคือ Ultimate Goal ที่ผมจะมอบให้น้องทั้ง 45 คน ในช่วงเวลาสั้นมากนี้คืออะไร หลายค่ายที่เป็นค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน เราใช้เวลาทั้งปีในการบ่มเพาะ และเฝ้าดูพัฒนาการของเขา ค่อยชี้แนะให้คำปรึกษา แต่ค่ายนี้มีเวลาไม่ถึง 4 วัน … ด้วยข้อจำกัดมากมายนี้ มีเพียงคำตอบเดียวที่ผุดขึ้นมาในตอนนั้น คือ ผมจะพาน้องทุกคนมาแฮกชีวิตของเขาเอง แม้อาจยังไม่พบแก่นแท้ของชีวิต ก็หวังให้พวกเขาได้ค้นพบคุณค่าบางอย่างในชีวิต ให้เขาได้ค้นพบตัวตน แม้เศษเสี้ยวแต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้น … เมื่อมีเป้าหมายหลักเช่นนี้ และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ของพวกเขา มันก็เพียงพอแล้วที่จะลงมือทำทันที

อ่านต่อ ตอน 2 นะครับ … ขอไปออกกำลังกายก่อน ;)

No responses yet